บันทึกรุ่งอรุณ,  โรงเรียนรุ่งอรุณ,  โรงเรียนอนุบาล

“ชวนพ่อแม่หนูมาดูบ้านเรา” งานหยดน้ำอนุบาล

สรุปผลการเรียนรู้  :  งานหยดน้ำ ๑/๕๗
เขียนโดย…คุณแม่น้องเจเจ ห้องขอบฟ้า
Feature

“งานหยดน้ำคืออะไร”…ด้วยคำถามจากหลายๆ คนที่บ้าน หลังจากที่ได้เล่าให้ฟังว่า จะได้เข้าไปร่วมงานหยดน้ำที่ห้องเรียนของลูก ทำให้เราต้องมาย่อยความคิดออกมาอีกครั้งว่า รุ่งอรุณมีวัตถุประสงค์อะไรในการจัดงานหยดน้ำขึ้นในแต่ละครั้ง ซึ่งเหตุผลต้องไม่ใช่ให้เราไปดู ไปชื่นชม เล่นสนุกกับลูกแล้วจบแน่ๆ

เริ่มจากคุณครูได้ส่งการ์ดเชิญวันหยดน้ำมาล่วงหน้าก่อนเป็นอาทิตย์ ตามด้วยการสนทนาทางไลน์จากพ่อแม่อาสาเกี่ยวกับการแบ่งวันกันเข้าไปเล่นกับลูกๆ การเตรียมการเล่น อาหารที่จะปิกนิกในแต่ละวัน และสุดท้ายได้มีการนัดพบกันช่วงหลังเลิกเรียนเพื่อสรุปวางแผนงานและแบ่งหน้าที่กัน เพื่อให้งานออกมาดีที่สุดสำหรับลูก

สำหรับครอบครัวเราได้เข้าร่วมงานหยดน้ำในวันพุธที่ ๖ สิงหาคม ๕๗ โดยกิจกรรมที่ได้รับมอบหมายจากการประชุมคือ “การทำแป้งโดว์” เอ่อ…ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยทำเองสักครั้ง เคยแต่ซื้อมาเล่น แต่ไม่มีอะไรที่มนุษย์ตั้งใจทำแล้วจะทำไม่ได้ ยกเว้นว่าไม่ได้ทำต่างหาก ดังนั้นเราต้องเริ่มจากการหาข้อมูลสูตรการทำแป้งโดว์ ซึ่งนับเป็นความโชคดีที่มีแม่อรอยู่ในห้องเรา อรมีสูตรขนมและอาหารแบ่งปันตลอด รวมทั้งสูตรการทำแป้งโดว์ในครั้งนี้ด้วย แต่อรติดวันหยดน้ำของภูผา เช้าวันเดียวกันเลย

แต่การได้สูตรมาอย่างเดียวก็เป็นแต่จินตามยปัญญา ถึงฟังแม่พ่อรออธิบายการทำแล้วก็แค่สุตมยปัญญา ทำไม่เป็นอยู่ดี แถมครอบครัวเรามีความสามารถในการทำงานหน้าเตาในระดับ ๒ เต็ม ๑๐๐ แต่เพื่อความเพลิดเพลินของลูกๆ ทั้ง ๒๕ คน พ่อแม่ต้องเดินหน้าต่อ ก็ต้องทดลองทำสิครับท่าน

อุปกรณ์หาไม่ยาก เพราะมีคนชอบทำขนมในครอบครัว แต่ขั้นตอนนี่สิ…

๑.แป้งอเนกประสงค์    ๑     ถ้วยครึ่ง
๒.ครีมออฟ ทาร์ ทาร์   ๑     ช้อนชา
๓.น้ำมันพืช               ๑     ช้อนโต๊ะ
๔.เกลือ                    ๒      ถ้วย
๕.น้ำ                       ๑      ถ้วยครึ่ง

การได้ลองทำเอง ก็เกิดภาวนามยปัญญา รู้แล้วไอ้จุดที่คิดว่ายากไม่ยากอย่างที่คิด และในจุดที่คิดว่าง่าย ก็ไม่ง่ายอย่างที่คิด การกวนแป้งไม่ยากเลย สิ่งที่ยากกลายเป็นการละลายเกลือ เกลือ ๑ ถ้วย กับน้ำ ๑ ถ้วยครึ่ง  น้ำน้อย เกลือเยอะ น้ำอิ่มตัว เกลือไม่ละลายต่อ ก็ต้องใช้เวลา ใช้ความอดทน บวกเทคนิคหน่อยเพื่อให้ได้ผลออกมาตามความต้องการ และได้ผลสรุปที่ว่า เราต้องเตรียมเกลือที่ละลายแล้วไปให้พร้อม เพราะด้วยเวลาที่จำกัด และขั้นตอนที่หลากหลายในการทำ จะมีเวลาไม่พอสำหรับการละลายเกลือที่โรงเรียนแน่นอน…เอาล่ะ เราพร้อมลุยวันหยดน้ำแล้วจ้า

แล้ววันสำคัญก็มาถึง เจเจตื่นเต้นมาก พ่อกับแม่ของเจเจก็ตื่นเต้นมากเหมือนกัน กิจกรรมแป้งโดว์ในตอนเช้าผ่านไปด้วยดี แม้จะมีความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ทำให้แป้งบางชุดไม่เซ็ตตัว แต่คำสรุปของคุณครูที่ว่า เด็กๆ จะได้เรียนรู้เรื่องผิวสัมผัส  เออ..เฮ้ย…จริง  โห! อุตส่าห์ละลายเกลือซะเกลี้ยง น่าจะเหลือให้เด็กๆ ได้ลองผิวสากๆ ของเม็ดเกลือบ้างนะเรา

กิจกรรมอื่นๆ ก็สร้างความรู้สึกที่แตกต่าง ทั้งแปลกใจ ตื้นตัน ปีติ และสุดท้ายคือ ความสบายใจที่ลูกของเราได้มาอยู่ในสังคมที่ชักนำให้เขาได้เรียนรู้จากความจริงของธรรมชาติ ได้มีพัฒนาการที่ดีตามวัย โดยไม่ต้องใช้การเค้นบังคับ แต่ด้วยการดึงเอาการเล่นสนุกมาต่อยอดให้เกิดความเข้าใจ การอยากเรียนรู้ด้วยตัวเด็กเอง

หยดน้ำเล็กๆ แต่ละหยดไหลลงรวมกันเป็นสายธาร หยดน้ำอันบริสุทธิ์ทุกหยดจะรวมตัวกันหล่อเลี้ยงโลกใบนี้ให้เป็นโลกที่ดีขึ้น เป็นสังคมที่มีคุณภาพขึ้น ด้วยความรับผิดชอบต่อตัวเอง สังคม ประเทศ และโลกใบนี้ ตามแนวทางอันประเสริฐ แนวทางแห่งความพ้นทุกข์

ขออนุโมทนากับคณะผู้บริหาร คุณครู และเจ้าหน้าที่ทุกท่าน
ปิยะนุส  ชัยขจรวัฒน์  (คุณแม่น้องเจเจ ห้องขอบฟ้า)