25ปีรุ่งอรุณ,  Video,  วิดีโอ,  โรงเรียนรุ่งอรุณ

การศึกษาแบบบูรณาการ สร้างสังคมศานติสุข โดย รศ.นพ.ประเวศ วะสี

ศาสตราจารย์เกียรติคุณนายแพทย์ประเวศ วะสี
กรรมการที่ปรึกษามูลนิธิโรงเรียนรุ่งอรุณ
แสดงปาฐกถาผ่านวิดีโอบันทึกการสัมภาษณ์
ในงาน “ย้อนหยั่งรากลึก วิถีการเรียนรู้สู่ปัญญา ๒๕ ปี โรงเรียนรุ่งอรุณ”
วันอังคารที่ ๑๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๕
ณ โรงเรียนรุ่งอรุณ
.

“…ถ้าเราดูปัญหาใหญ่ของโลก โดยเอาเรื่องการศึกษาไปตอบปัญหาใหญ่ ปัญหาใหญ่ที่สุดของโลกขณะนี้ คือการเสียสมดุล ความสมดุลเป็นเรื่องสำคัญที่สุด การอยู่ร่วมกันอย่างสมดุล ระหว่างคนกับคน และคนกับธรรมชาติแวดล้อม เป็นเรื่องใหญ่ที่สุด เป็นอนาคตของโลก เป็นอนาคตของมนุษยชาติ แต่ที่พัฒนามาจนถึงทุกวันนี้ กลับทำให้เสียสมดุลอย่างรุนแรงในทุกมิติ ทั้งเรื่องสิ่งแวดล้อม ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ สังคมเกิดความเหลื่อมล้ำ ทั้งเรื่องการเมือง ทั้งเรื่องในตัวมนุษย์เองที่เสียสมดุลจนไม่สบาย เจ็บป่วย เครียด… เรียกว่ามีการเสียสมดุลอย่างรุนแรง เพราะฉะนั้นโลกในอนาคตเป็นเรื่องของมนุษย์ทุกคน คือต้องสร้างความสมดุล หรือการอยู่ร่วมกันอย่างสมดุล ระหว่างคนกับคน และคนกับสิ่งแวดล้อม

ที่ผ่านมาที่มีการเสียสมดุลอย่างรุนแรง เพราะเป็นการคิดแบบแยกส่วน ทำแบบแยกส่วนทั้งสิ้น เศรษฐกิจก็ทำแบบแยกส่วน ไปเน้นที่การสร้างความมั่งคั่ง แม้แต่ธรรมะก็ไม่ได้ผล สอนศีลธรรม สอนธรรมะ ศีลธรรมก็ไม่เกิด เรื่องสิ่งแวดล้อมก็ไม่สำเร็จ เรื่องการศึกษาก็ทำแบบแยกส่วน โดยไปเอาวิชาเป็นตัวตั้ง ไม่ได้เอาชีวิตและการอยู่ร่วมกันเป็นตัวตั้ง เพราะฉะนั้นทุกเรื่องแม้แต่เรื่องการเมืองประชาธิปไตยก็ทำแบบแยกส่วน เมื่อทำแบบแยกส่วนก็ไม่สำเร็จ เพราะว่าสรรพสิ่งล้วนเชื่อมโยงบูรณาการ

…เพราะฉะนั้นถ้าจะพิจารณาเรื่องใหญ่ของโลกและของการศึกษา คือเรื่องความสมดุลและการศึกษาแบบบูรณาการ เพราะการจะเกิดสมดุล ต้องทำอย่างบูรณาการ ทุกเรื่องเชื่อมโยงไป เหมือนร่างกายของเรา ที่จะมีสุขภาพดี อายุยืน ก็คือมีความสมดุล ที่ทุกส่วนทั้งกายทั้งใจเชื่อมโยงกันอย่างบูรณาการ เมื่อมีบูรณาการก็มีความเป็นปรกติ หรือความเป็นปรกติสุข แล้วก็มีความยั่งยืน

…เพราะฉะนั้นในอนาคต เรื่องการพัฒนาอย่างบูรณาการสู่องค์รวมจึงเป็นเรื่องสำคัญที่สุด การศึกษาก็ต้องบูรณาการอยู่ในนี้ มี ๘ มิติที่ต้องเชื่อมโยงบูรณาการอยู่ในกันและกัน คือ เศรษฐกิจ จิตใจ สังคม สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม สุขภาพ การศึกษา และประชาธิปไตย เป็น ๘ มิติต้องเชื่อมโยงอยู่ในกันและกัน

…ในเรื่องยากๆ และซับซ้อน ปัญญาเดี่ยวๆ ไม่สำเร็จ ต้องมีปัญญาร่วม Collective Wisdom เพราะฉะนั้นการเรียนรู้ร่วมกันในการปฏิบัติในสถานการณ์จริง เป็นการเรียนรู้ที่ง่ายและสนุก ถ้าคนเราอยู่คนเดียว แล้วเผชิญกับเรื่องที่ซับซ้อน จะเหมือนคนโง่ แต่พอเรียนรู้เป็นกลุ่ม เป็นเครือข่าย ทุกคนเป็นคนฉลาดหมด และเรียนง่าย แล้วก็ฉลาดร่วมกัน เพราะฉะนั้นตรงนี้มีความสำคัญมาก อาจจะถือเป็นการเรียนรู้ที่ดีที่สุดก็ได้ เพราะแก้ปัญหาทุกอย่าง

…ขออวยพรให้คณาจารย์ ครูบาอาจารย์ทุกคน ผู้ปกครองที่รวมเรียกว่าประชาคมรุ่งอรุณ มีความสุขความเจริญ มีความสำเร็จ ได้ช่วยกันพัฒนาประเทศไทยไปสู่แผ่นดินศานติสุข ด้วยการเรียนรู้ที่ดี แล้วขยายออกไปในโลก เพื่อช่วยให้เพื่อนมนุษย์หรือมนุษยชาติทั้งโลก ได้มีการเรียนรู้ที่ดี เพื่อสร้างโลกใหม่ โลกอนาคตแห่งความสมดุล การอยู่ร่วมกันอย่างสมดุล ทั้งมนุษย์ ทั้งคนกับคน และคนกับสิ่งแวดล้อม เมื่อมีความสมดุลอย่างนี้แล้ว การพัฒนาจิตใจให้สูงขึ้นไปก็ทำได้ง่าย”