บันทึกรุ่งอรุณ,  รอบรั้วรุ่งอรุณ,  โรงเรียนรุ่งอรุณ,  โรงเรียนอนุบาล

“วางใจให้ลูกได้เผชิญ” เคล็ดลับสร้าง Growth Mindset

วันเสาร์ที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๖๐ รศ.ประภาภัทร นิยม อธิการบดีสถาบันอาศรมศิลป์และผู้ก่อตั้งโรงเรียนรุ่งอรุณ ได้มาพบปะพูดคุยกับผู้ปกครองนักเรียนระดับชั้นอนุบาล ๑ ที่มาร่วมงานปฐมนิเทศในโครงการห้องเรียนพ่อแม่ “เลี้ยงลูกดีวิถีไทย” ครั้งที่ ๕ เพื่อชวนพ่อแม่ผู้ปกครองมาเรียนรู้การวางจิตวางใจเป็นกัลยาณมิตรของลูก และสร้างความเข้าใจร่วมกันระหว่างบ้านและโรงเรียน และร่วมกันพัฒนาเด็กไปในทิศทางเดียวกัน

เด็กคือความมหัศจรรย์
รศ.ประภาภัทรกล่าวกับผู้ปกครองว่า เด็กคือความมหัศจรรย์ พ่อแม่และครูคือกัลยาณมิตรของเด็ก ซึ่งต้องช่วยกันประคับประคองให้เด็กได้ทดลองรู้จักตัวเอง เรียนรู้ที่จะทำสิ่งต่างๆ ด้วยตัวของเขาเอง แล้วเขาจะพบความมหัศจรรย์ของตัวเขา บางครั้งเด็กอาจจะพบความสำเร็จบ้าง บางครั้งก็พบความล้มเหลว แต่จะเห็นว่าเด็กไม่ได้ย่อท้ออะไร ความเป็นเด็กนั้นมหัศจรรย์ ต่างกับผู้ใหญ่ที่ท้อง่าย บางครั้งก็ท้อไปก่อนเสียด้วยซ้ำ แต่เด็กๆ กลับไม่ค่อยรู้สึกว่าชีวิตลำบากอะไร ธรรมชาติของเด็กเขาจะเรียนรู้ ลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆ เป็นการสั่งสมประสบการณ์ ความถนัด ความชำนาญ และทักษะต่างๆ เพราะฉะนั้นหน้าที่ของพ่อแม่และครูคือมาช่วยกันดูแลสิ่งมหัศจรรย์นี้เท่านั้นเอง

วางใจให้ลูกได้เผชิญ
ในช่วง ๓ ขวบขึ้นไปเป็นช่วงวัยที่เด็กจะฟอร์มสติปัญญา บ้านและโรงเรียนต้องร่วมมือกันในฐานะที่เป็นกัลยาณมิตรของเด็ก เป็นโอกาสที่พ่อแม่และครูจะได้เรียนรู้และพัฒนาตัวเองจากปุถุชนเป็น “กัลยาณชน” คือ มีสติปัญญาพึ่งพาจิตใจที่มั่นคงของตนได้ แล้วความมั่นคงภายในของพ่อแม่นี้เองที่จะเป็นที่พึ่งที่ดีที่สุดของลูก

ทั้งนี้ รศ.ประภาภัทรได้ยกตัวอย่างวิดีโอคลิปที่นำเสนอภาพของเด็กวัยขวบเศษที่พิการแขนทั้งสองข้างกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้สำหรับเด็ก แล้วใช้เท้าจับช้อนตักอาหารใส่ปากเอง ทั้งยังมีท่าทีสดชื่นรื่นเริง เป็นปกติ ไม่ได้แสดงอาการเศร้าเหงาหงอยแต่อย่างใด แล้วไม่ใช่แค่เด็กในวิดีโอคลิปนี้ แต่ยังมีเด็กๆ ในโลกอีกมากที่เป็นเช่นนี้ เขาจะเติบโตขึ้นมาอย่างไร ด้วยความเข้าใจในตัวเองแบบไหน เขาจะอยู่ในโลกนี้อย่างไร แล้วลองคิดถึงจิตใจของพ่อแม่เด็กๆ เหล่านี้

“แล้วพ่อแม่ต้องทำจิตใจอย่างไรจึงจะพาให้ลูกเติบโตในโลกนี้อย่างมั่นคง ไม่ว่าเขาจะเผชิญสถานการณ์ยากลำบากหรือเลวร้ายขนาดไหน?”

รศ.ประภาภัทรตั้งคำถาม พร้อมทั้งชวนพ่อแม่ผู้ปกครองย้อนกลับมามองตัวเอง ลูกเราเกิดมาสมบูรณ์ มีทุกอย่างเพียบพร้อม ไม่ต้องเผชิญสถานการณ์ยากลำบากเหมือนเด็กในคลิปวิดีโอ แล้วพ่อแม่ของเด็กในวิดีโอคลิปเขาทำอย่างไรถึงทำให้ลูกเผชิญสิ่งเหล่านี้ได้ด้วยใจที่เป็นปกติ ต่างกับเราที่สถานการณ์ปกติ แต่บางทีจิตใจไม่ปกติ กังวลไปก่อน เพราะฉะนั้นพ่อแม่ต้องวางใจและไว้เนื้อเชื่อใจในความสามารถของลูก ให้ลูกเผชิญสิ่งต่างๆ ด้วยตัวเอง อย่าด่วนตัดสินหรือคิดแทนเขา แต่ถ้าพ่อแม่ไม่เปิดโอกาสให้ลูกได้เผชิญ เขาจะไม่ได้ใช้ศักยภาพภายในอย่างเต็มที่

การวางใจให้เด็กได้เผชิญปัญหา อุปสรรค ความยาก ความท้ายทาย เป็นการสร้าง Growth Mindset เด็กจะเรียนรู้และทำสิ่งต่างๆ ด้วยความมั่นคง อึด (Grit) เรียนรู้จากความผิดพลาด มองว่าผิดเป็นครู เข้าใจตัวเอง อยู่กับตัวเองเป็น ไม่รู้สึกว่าสิ่งใดเป็นภาระทางใจ และเติบโตมาเป็นนักแสวงหาคำตอบด้วยตัวเอง พร้อมจะเผชิญสถานการณ์ยากลำบากในอนาคตได้อย่างดี