บันทึกรุ่งอรุณ,  โรงเรียนมัธยม

พิธีปัจฉิมนิเทศนักเรียนชั้น ม.๖ ปีการศึกษา ๒๕๖๕

พิธีปัจฉิมนิเทศ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๕ ซึ่งเป็นงานประเพณีสำคัญของนักเรียนมัธยมรุ่งอรุณ ที่น้อง ม.๓ จะจัดงานอำลาพี่ๆ ชั้น ม.๖ ในช่วงปลายปีการศึกษา ก่อนพี่ๆ จะก้าวออกจากรั้วรุ่งอรุณไปใช้ชีวิตตามที่แต่ละคนเลือกเดิน โดยในปีนี้จัดขึ้นในช่วงเช้าของวันศุกร์ที่ ๓๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๖ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของปีการศึกษา ๒๕๖๕

เริ่มต้นด้วยประธานในพิธีจุดธูปเทียนบูชาคุณพระศรีรัตนตรัย ตัวแทนน้อง ม.๓ นำสวดมนต์ จากนั้นตัวแทนพี่ ม.๖ มอบพานธูปเทียนและมาลัยกราบขอขมาครูแด่ครูสุวรรณา ชีวพฤกษ์ ผู้รับใบอนุญาตโรงเรียนรุ่งอรุณ ซึ่งได้ให้โอวาทแก่นักเรียน ใจความว่า

พื้นที่ให้โอกาสทุกคนได้เรียนและเติบโต
“โรงเรียนรุ่งอรุณเปิดโอกาสในทุกๆ พื้นที่ เพราะว่าคนคนหนึ่งจะเติบโตได้ ไม่ใช่ด้านเดียว แล้วคนแต่ละคนไม่ได้มีแค่ด้านเดียวที่จะเติบโต ทุกคนมีแต่ละด้านของตนเองทั้งสิ้น ถ้าเราไม่มีพื้นที่และโอกาส ความสามารถจะไม่ถูกดึงออกมาจากตัวเราเอง เราก็จะอยู่แค่ที่เราชิน เขาจัดอย่างไรเราก็อยู่แบบนั้น ซึ่งถ้าเราอยู่แบบนั้น เราจะดึงความสามารถลึกๆ ของเราออกมาไม่ได้ อยู่ไปนานๆ เราก็ชินชา ไม่รู้สึกรู้สาอะไร เพราะฉะนั้นโรงเรียนรุ่งอรุณจึงปลุกความรู้สึกขึ้นมา เราต้องเข้าใจนักเรียนทั้งอนุบาล ประถม แล้วก็วัยรุ่น ซึ่งวัยรุ่นนั้นยากที่สุด วัยรุ่นกำลังบอกกับทุกคนบนโลกนี้ว่า เขาต้องการการเรียนรู้แบบนี้ เขาไม่ได้แค่ต้องการการเรียนรู้ที่จัดตามๆ กันมา เขาต้องการพื้นที่ของเขาที่จะแสดงอะไรบางอย่างออกมาให้ทุกคนได้รับรู้ เพราะฉะนั้นรุ่งอรุณจึงมีพื้นที่ตัวนี้ไว้ พื้นที่อันเป็นธรรมชาติ และก็มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่ได้ประดิษฐ์แต่งจนลงตัว แต่ทุกอย่างที่ไม่ประดิษฐ์แต่งและเป็นธรรมชาตินี้กำลังเติบโตและอยู่ร่วมกันได้”

จากนั้นรองศาสตราจารย์ประภาภัทร นิยม ผู้ก่อตั้งโรงเรียนรุ่งอรุณ ได้กล่าวปัจฉิมโอวาทกับนักเรียน มีใจความบางช่วงบางตอน ดังนี้

“ในช่วงชีวิตหนึ่งของคน บางทีมันมีอะไรที่พลิกผันได้เยอะทีเดียว เมื่อเรารู้จักและค้นพบตนเอง พบหนทางที่ราบรื่นที่จะนำไปสู่ความสุข ก็จะปรับเปลี่ยนชีวิตไปตามเส้นทางนั้น ชีวิตคนจึงเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ เราจะมองมันเป็นโอกาสหรือเป็นแค่สิ่งที่ผ่านไปเฉยๆ ต้องมีสายตาที่ประเมินด้วยตัวเราเอง เพราะต่อจากนี้ไม่มีใครคอยไกด์ให้เราอีกแล้ว ทุกๆ ปัญหาจะเป็นเรื่องท้าทายให้เกิดปัญญาของเรา และอาจารย์เชื่อมั่นว่านักเรียนโรงเรียนรุ่งอรุณทุกคนมีพื้นฐานมาดีมากกว่าใครๆ พร้อมที่จะเผชิญกับสถานการณ์ความยากลำบากหรือปัญหาต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต อาจารย์เชื่อว่านักเรียนรุ่งอรุณมีภูมิคุ้มกันที่มั่นคง พร้อมที่จะออกไปใช้ชีวิตจริงๆ คำว่า ‘ใช้ชีวิต’ ก็จะเป็นเรื่องที่สนุกขึ้น”

การสร้างความสัมพันธ์อย่างสร้างสรรค์
“เราจะเป็นคนที่มีความหมายในที่นั้นๆ เราต้องรู้จักฟังคนอื่นให้มากๆ มองสิ่งที่เขาสะท้อนออกมาว่ามันมีข้อดี มีสิ่งที่เป็นประโยชน์อะไรบ้าง หยิบขึ้นมาให้เป็น แล้วเราก็จะได้กำไรชีวิตมากๆ ฟังก่อนแล้วค่อยพูดที หลังอันนี้เป็นวิธีการที่ทำให้เราอยู่และสร้างความสัมพันธ์เชิงสร้างสรรค์ได้อย่างราบรื่น”

“ขอให้ทุกคนมีเครื่องคุ้มครอง มีชีวิตที่งดงาม สดชื่น ได้แต่สิ่งที่ดี มีความราบรื่น มีความสุขกายสุขใจ ประสบความสำเร็จในชีวิตตามที่ทุกคนปรารถนาทุกประการ และมีความมั่นคงในชีวิตตลอดไป”

นักเรียนสะท้อนการเรียนรู้
“หลายคนชอบพูดว่าสักวันหนึ่งเราจะเจอที่ที่เป็นของเรา หนูรู้สึกว่าที่นี่เป็นที่ของหนู คือไม่ใช่ว่าที่นี่เป็นที่ของเราเพราะเราทำอะไรก็ได้ ทำอะไรก็ถูก แต่เป็นเพราะว่าเรากล้าที่จะทำทุกๆ สิ่งทุกๆ อย่างโดยที่ไม่ต้องกลัวว่าสุดท้ายถ้ามันผิด ครูหรือว่าเพื่อนก็ไม่มีใครมาเหยียบย่ำเรา ไม่ว่าจะอย่างไรก็แล้วแต่ มันมีคนคอยประคองเราอยู่ตลอด หนูแค่รู้สึกว่าหนูคงล้มไปมากกว่านี้หรืออาจจะทรงตัวขึ้นไม่ได้ด้วยซ้ำถ้าไม่มีคุณครูกับเพื่อนๆ… ไม่มีใครมาบอกว่าอย่าเป็นแบบนี้สิ อย่าทำแบบนี้สิ แต่ทุกคนจะบอกว่าจงอยู่กับสิ่งที่เราเป็นให้ได้ จงดีขึ้นในแบบที่เราเป็นในทุกๆ วัน เลยรู้สึกว่าที่นี่เป็นที่ของหนู… เราอยู่ด้วยกันมานานมากๆ ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน เราเห็นทุกคนในหลายๆ มุม เราเข้าใจทุกคนในแบบกลมๆ ไม่ใช่ในแบบด้านเดียว เราเคารพในการเป็นตัวของตัวเองในแบบของแต่ละคน โดยที่ไม่คิดว่าจะต้องเข้าไปเปลี่ยนใคร ครูทำให้หนูรู้สึกว่าครูคือผู้หวังดี ให้แนวทางทุกอย่าง หนูดีขึ้น หนูทรงตัวได้ด้วยตัวของหนูเอง ครูไม่เคยทำให้หนูรู้สึกว่าหนูจะต้องพึ่งครูไปตลอดชีวิต สิ่งที่ครูสอนมันคือสิ่งที่หนูจะต้องเอาไปใช้กับตัวเองต่อ จากนี้รุ่งอรุณก็จะเป็นที่ที่หนูคิดถึงมากๆ และก็เป็นที่มีเรื่องราวดีๆ คนดีๆ ที่อยู่รายล้อมกันเต็มไปหมด ขอบคุณคุณครูและเพื่อนๆ ทุกคนที่อยู่ด้วยกันมาจนถึงตอนนี้ค่ะ” – ‘ฝน’ ณิชากร พลชาลี ม.๖/๒

“หนูรู้สึกว่าประสบการณ์ที่ผ่านมาผลักดันให้หนูเปลี่ยนไปมาก ตั้งแต่เด็กขี้อายจนกล้าลองทำอะไรใหม่ๆ มากขึ้น แล้วก็อยากขอบคุณคุณครูมากๆ หนูรู้สึกว่าครูไม่เคยมอบหมายอะไรที่ยากเกินความสามารถของหนู จนทำให้หนูผิดหวังหากหนูทำมันไม่ได้ แต่อะไรที่เป็นโอกาสที่หนูพอจะทำได้ครูก็ยื่นให้หนูมาตลอด ขอบคุณที่ครูไม่ได้เป็นแค่ครูในห้องเรียน แต่ว่าเป็นที่ปรึกษาปัญหาอื่นๆ ให้คำแนะนำดูแลเรื่องอื่นๆ มาตลอด แล้วก็ขอบคุณเพื่อนที่คอยช่วยเหลือกันมาตลอด สิ่งที่ได้จากที่นี่จะเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้หนูก้าวไปข้างหน้า และที่นี่จะเป็นความทรงจำที่ดีเสมอค่ะ” – ‘เชียร์’ นงนภัส ลีละศิธร ม.๖/๑

จากนั้นคุณครูได้ร่วมกันผูกด้ายมงคลที่ข้อมือนักเรียนแต่ละคน เพื่อความเป็นสิริมงค และเป็นเครื่องระลึกถึงความผูกพันระหว่างครูกับศิษย์ ก่อนจะรับชมคลิปวิดีโอ “2 be 1 of our memory” เพื่อย้อนวันวานของพี่ ม.๖ ที่น้องๆ ม.๓ จัดทำเป็นของขวัญให้พี่ๆ

ปิดท้ายด้วยกิจกรรมสานสัมพันธ์น้องพี่มัธยมศึกษาที่น้อง ม.๓ เตรียมไว้สำหรับพี่ ม.๖ บรรยากาศเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ความอบอุ่น และความทรงจำที่ดีตลอดไป

:: ขอบคุณภาพจาก ‘พีพี​’ คณพล วรภู ม.๕/๒