บันทึกรุ่งอรุณ,  ภาคสนาม,  โรงเรียนมัธยม,  โรงเรียนรุ่งอรุณ

ปฐมนิเทศนักเรียนชั้น ม.๔ ณ วัดป่าวิมุตตยาลัย จ.เชียงราย

 


วันที่ ๔-๑๐ พฤษภาคมที่ผ่านมา นักเรียนชั้น ม.๔ ไปร่วมกิจกรรมปฐมนิเทศ ณ ไร่เชิญตะวัน วัดป่าวิมุตตยาลัย จ.เชียงราย โดยเข้าปฏิบัติธรรมกับพระอาจารย์ใหญ่ ว. วชิรเมธี พร้อมกับพระวิปัสสนาจารย์ และทีมวิทยากร ตลอดทั้ง ๕ วัน นักเรียนมีโอกาสปฏิบัติภาวนาอานาปานสติ เดินจงกรม เพื่อเพิ่มพูนสติ โดยประโยคที่เด็กๆ จะก้องอยู่ในจิตใจตลอดเวลาคือ “รู้สึกตัวหรือเคยชิน” เป็นคำพูดที่พระอาจารย์สุกันเอ่ยพูดเตือนสติกับนักเรียนเสมอๆ และแน่นอนว่าในช่วงวันแรกๆ นักเรียนจะอยู่กับความคุ้นเคยที่สั่งสมมาช้านาน แต่เมื่อพระอาจารย์ได้มอบวิชาความรู้ให้ นักเรียนก็เริ่มที่จะปฏิบัติและมีความเข้าใจเกี่ยวกับสติความรู้ตัวมากขึ้น

จากการใช้ชีวิตตลอดช่วงเวลาปฏิบัติ แม้ว่าจะต้องผจญเหตุการณ์ทั้งเรื่องของสภาวะธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว ความร้อนระอุในยามกลางวัน เหล่าแมลงหลากสายพันธุ์ที่คอยตอมตามเนื้อตามตัว นอกจากนี้ยังมีเรื่องการต่อสู้ทางสภาวะจิตใจ ทั้งความเมื่อยล้า ความง่วง ที่เกิดจากการปฏิบัติ ความอึดอัดใจ ความเบื่อหน่าย ที่ขาดการติดต่อจากโลกภายนอก แต่เมื่อนักเรียนสะท้อนสิ่งที่ได้เรียนรู้ ก็ทำให้เห็นว่าในระยะเวลา ๕ วัน พวกเขาสามารถเก็บเกี่ยวประสบการณ์กลับไปใช้กับชีวิตได้ดีทีเดียว

จ๊อบ:ผมรู้สึกว่าการมีสติมันทำให้เรามีการตอบสนองที่เปลี่ยนไป ทั้งๆที่เป็นเหตุการณ์เดียวกัน มันทำให้เราไม่ได้ทำอะไรออกไปแค่เพียงเพราะใช้สัญชาตญาณ แต่เรามีสติเข้าไปด้วย

ปั้น (ธนดล): ในวันหลังๆ ความฟุ้งที่เกิดขึ้นมันลดน้อยลง และมีสติในการจัดการตัวเองมากขึ้น ตอนผมไปอาบน้ำ ผมเจอแแมงมุม ซึ่งปกติผมกลัวมาก ใจมันคิดจะวิ่งออกมาจากห้องน้ำแล้วนะ แต่ตอนที่ทำจริงๆ ก็มองแมงมุม แล้วก็หยิบเสื้อผ้า แล้วค่อยเดินออกมา

เตย: พระอาจารย์สอนเรื่องอนิจจัง เช่น ถ้านั่งแล้วเป็นเหน็บ หรือปวดขา เราก็มีสติแล้วดู เพราะมันเป็นอนิจจัง เดี๋ยวมันก็จะหายไป แล้วพอหนูลองดูมันก็หายจริงๆ

จิ้ง: รู้สึกถึงความสุขที่เกิดจากความว่างในการปฏิบัติ และทำให้เราระลึก รู้สึกตัวได้ว่า “ความตายกับวันพรุ่งนี้ไม่รู้ว่าอะไรจะมาก่อนกัน” ดังนั้นเราควรจะอยู่ด้วยความไม่ประมาท

ในวันสุดท้าย พระอาจารย์ใหญ่ ว. วชิรเมธีได้เมตตามอบปัจฉิมโอวาทว่า

“สติ คือตัวชี้วัด จำแนกแยะแยะระหว่างคนที่ปฏิบัติกับไม่ปฏิบัติ เพราะความละเอียดในการประพฤติปฏิบัติจะต่างกัน ทั้งเรื่องอากัปกิริยา การปฏิบัติกับผู้คนและสิ่งแวดล้อมรอบข้าง ดังคำกล่าวที่ว่า

คนมีสตินั้น ทุกเรื่องที่คิด ทุกจิตที่ทำ ทุกคำที่พูด ทุกอิริยาบถที่เคลื่อนไหวจะสงบ สง่างาม และมีความตั้งใจ

ถ้าเราตั้งใจปฏิบัติ เราก็สามารถที่จะมีชีวิตอยู่เหนือสัญชาตญาณได้ เมื่อมีความง่วง ความเมื่อยล้าเกิดขึ้น แต่เมื่อเรามีสติ ก็จะทำให้เราไม่แสดงอากัปกิริยานั้นออกมา ดังนั้นหลังจากที่เราได้ปฏิบัติแล้วหากสามารถเอาชนะสัญชาตญาณได้มากขึ้นเรื่อยๆ ก็ถือเป็นความก้าวหน้าในการปฏิบัติ…”

Leave a Reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.